สรุปความเป็นมาและการดำเนินงานเกี่ยวกับพิธีสารมาดริดกรมทรัพย์สินทางปัญญา มีนโยบายที่จะอำนวยความสะดวกแก่ผู้ประกอบการไทยในการขอรับความคุ้มครองสิทธิในเครื่องหมายการค้าในต่างประเทศ โดยกรมฯ ได้ดำเนินการในการเตรียมการให้ประเทศไทยเข้าเป็นภาคีการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าระหว่างประเทศตามพิธีสารมาดริด ประกอบกับแผนงานการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน และประหยัดค่าใช้จ่ายในการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าในต่างประเทศ ซึ่งจะเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่รวดเร็ว (Madrid Protocol) (ASEAN Economic Community (AEC) Blueprint) มีข้อตกลงให้ประเทศสมาชิกอาเซียนเข้าเป็นภาคีพิธีสารมาดริดภายในปี ค. ศ. ๒๐๑๕ (พ. ศ. 2558) อีกด้วย กรมฯได้ดำเนินการเตรียมการเข้าเป็นภาคีพิธีสารมาดริด ดังนี้ โดยจัดสัมมนา การเตรียมความพร้อมและผลกระทบหากประเทศไทยเข้าเป็นภาคี กรมฯได้ส่งเสริมและเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับพิธีสารมาดริด 2548 การดำเนินการปีงบประมาณ ๓ จำนวน ๑. ครั้ง คือ สัมมนาเชิงปฏิบัติการ ๑ ๒) "เพิ่มประสิทธิภาพการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า") สัมมนาเรื่อง, "The Additional Protocol The Madrid International Registration of Marks" โดยผู้เชี่ยวชาญจาก เป็นผู้บรรยาย สัมมนาเรื่อง กติกาใหม่ ความคุ้มครองเครื่องหมายการค้าในต่างประเทศ WIPO ๓) ":" ๒. การดำเนินการปีงบประมาณ 2549 แต่งตั้งคณะทำงานรับผิดชอบเกี่ยวกับการเข้าเป็นภาคีพิธีสารกรุงมาดริด (คำสั่งที่ ๒๒๐/๒๕๔๘ ลว. ธ 2548. ๑๑ ค.) เพื่อปฏิบัติหน้าที่ในการจัดทำแผนงานรองรับการเข้าเป็นภาคีพิธีสารกรุงมาดริด ศึกษากฎหมาย ระเบียบต่าง มีการประชุม ที่เกี่ยวข้อง และดำเนินการอื่นๆ ศึกษาขั้นตอนและระเบียบการปฏิบัติในการเข้าเป็นภาคี มีการจัดทำร่างกฎหมาย เตรียมการด้านการบริหารจัดการ ๆ ๓ ครั้ง จัดสัมมนาเชิงวิชาการร่วมกับสภาทนายความเรื่อง ความเป็นไปได้ในการเข้าเป็นภาคีหัวข้อ "Madrid Protocol-Experiences and Perspectives"จัดทำแผนการดำเนินงานเตรียมการรองรับการเข้าเป็นภาคี และเปิดพื้นที่ในเว็บไซต์กรม (www.ipthailand.org) โดยจัดทำความรู้เบื้องต้นและเปิดช่องทางให้แสดงความคิดเห็น นอกจากนี้ คณะกรรมการพัฒนากฎหมายของกรมฯ ได้มีการยกร่างแก้ไขพระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้า พ.ศ.๒๕๓๔ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้า (ฉบับที่๒) พ.ศ.๒๕๔๓ บางส่วน ให้มีผลถึงการเข้าเป็นภาคีพิธีสารมาดริด โดยได้เสนอต่อสำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ ๒๗ พฤศจิกายน ๒๕๔๙ และต่อมาเมื่อวันที่ ๒๔ เมษายน ๒๕๕๐ คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติหลักการของร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวและส่งให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณาต่อไป อย่างไรก็ดี คณะกรรมการกฤษฎีกาในขณะนั้น ได้พิจารณาให้ตัดในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการเข้าเป็นภาคีพิธีสารมาดริดออก เนื่องจากว่ากระทรวงพาณิชย์ยังไม่มีนโยบายในการเข้าเป็นภาคีที่ชัดเจน๓. การดำเนินการปีงบประมาณ ๒๕๕๐ กรมฯ จึงได้จัดจ้างบริษัท อภิสิทธิ์ แอนด์ จำนวน จำกัด เรื่อง และในปีนี้กรมฯ ศึกษาวิเคราะห์ความตกลงระหว่างประเทศด้านเครื่องหมายการค้าโดยจัดทำคำแปลของกฎระเบียบของพิธีสารมาดริดและคู่มือการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าระหว่างประเทศภายใต้ความตกลงกรุงมาดริดและพิธีสารกรุงมาดริด อัลลายแอนซ์ ได้จัดสัมมนา รวมถึง "จึงจะจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าได้ทั่วโลก ทำอย่างไร ' มีการศึกษาดูงานระบบมาดริด ๑ ครั้ง ณ สำนักงานสิทธิบัตรญี่ปุ่น (Japan Patent Office JPO-) ประเทศญี่ปุ่นด้วย ๔. การดำเนินการปีงบประมาณ ๒๕๕๑ มีการจัดสัมมนา จำนวน ๓ ครั้ง คือ ๑) สัมมนาเชิงปฏิบัติการเพิ่มศักยภาพบุคลากรในเรื่องระบบพิธีสารมาดริดของประเทศสหรัฐอเมริกา โดย-๒-เชิญผู้เชี่ยวชาญจากสำนักงานสิทธิบัตรแห่งสหรัฐอเมริกา (United States Patent and Trademark Office – USPTO) เป็นผู้บรรยาย ๒) สัมมนาเรื่องการเข้าเป็นภาคี MADRID PROTOCOL (WIPO – ASEAN WORKSHOP ON THE MADRID PROTOCOL) เพื่อร่วมสร้างความเข้าใจและรับฟังความคิดเห็นของสมาชิกอาเซียน ๓) ประชุมเชิงปฏิบัติการ “ไทยพร้อมเข้าเป็นภาคีพิธีสารมาดริด...หรือยัง” เพื่อรับฟังความคิดเห็นทั้งภาครัฐและเอกชน และกรมฯ ได้จัดจ้างศูนย์บริการวิชาการแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยศึกษาวิจัยระบบมาดริด โดยศึกษาถึงความสอดคล้องของกฎหมายเครื่องหมายการค้ากับบทบัญญัติของพิธีสารมาดริด ซึ่งคณะวิจัยฯ ได้ทำการยกร่างแก้ไขกฎหมายเครื่องหมายการค้าทุกด้าน ให้ครอบคลุมการเข้าเป็นภาคีพิธีสารมาดริด และศึกษาดูงานระบบพิธีสารมาดริด โดยคณะวิจัยฯ มีการจัดประชุมรับฟังความคิดเห็นในการที่ประเทศไทยเข้าสู่ระบบการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าตามระบบมาดริด 2552 การดำเนินการปีงบประมาณ ๕ จำนวน ครั้ง. คือ องค์การทรัพย์สินทางปัญญาโลก ๑ ๒) (WIPO) ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และ ๒) สำนักงานเครื่องหมายการค้าแห่งชาติจีน (Trademark Office-CTMO) กรุงปักกิ่ง ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน ๖. การดำเนินการปีงบประมาณ ๒๕๕๓ มีดังนี้ ๖.๑ ด้านการยกร่างกฎหมาย กรมฯได้มีการแต่งตั้งคณะทำงานพิจารณาเตรียมการเข้าเป็นภาคีพิธีสารมาดริด โดยมีอำนาจหน้าที่ในการดำเนินการกำหนดแผนงาน ขั้นตอนในการเข้าเป็นภาคี ศึกษากฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง และจัดเตรียมการบริหารจัดการเพื่อเตรียมการเข้าเป็นภาคีพิธีสารมาดริดและได้จัดการประชุมคณะทำงานฯ รวม ๔ ครั้ง คือ เมื่อวันที่ ๒๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๓ , วันที่ ๒๒ มีนาคม ๒๕๕๓ , วันที่ ๑๔ พฤษภาคม ๒๕๕๓ และวันที่ ๒๙ กันยายน ๒๕๕๓๖.๒ ขั้นตอนการเตรียมการเข้าเป็นภาคี กรมฯ ได้มีหนังสือถึงกระทรวงการต่างประเทศ เมื่อวันที่ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย 190 เพื่อขอความเห็นเรื่องการเข้าเป็นภาคีพิธีสารมาดริดจะเข้าข่ายเป็นการทำหนังสือสัญญาตามมาตรา 2553 กันยายน ๓ ศ ควรจะต้องดำเนินการอย่างไรเพื่อให้เป็นไปตามที่กำหนดตามมาตรา กรมฯ และหากเป็นเช่นนั้น หรือไม่ ๒๕๕๐ พ.. 190 ตลอดจนขั้นตอนการยื่นพิธีสารและการให้สัตยาบันเป็นภาคีพิธีสารมาดริดต่อองค์การทรัพย์สินทางปัญญาโลก (World Intellectual Property Organization-WIPO) ๖.๓ การเตรียมการด้านอื่น ๆ (๑) กรมฯ ได้จัดจ้างศูนย์บริการวิชาการแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยวิจัยและสำรวจความคิดเห็นภาคประชาชนเกี่ยวกับความต้องการเข้าเป็นภาคีพิธีสารมาดริด โดยมีเป้าหมายผู้ประกอบการ จำนวน ๑,๕๐๐ ราย เนื่องจากว่าภาคเอกชน และสำนักงานกฎหมายส่วนใหญ่มีความเห็นว่าการเข้าเป็นภาคีพิธีสารมาดริดจะมีผลกระทบต่อ
การแปล กรุณารอสักครู่..
